เรื่อง ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการเช่า-คืนเครื่องคอมพิวเตอร์

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553



เรื่อง ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการเช่า-คืนเครื่องคอมพิวเตอร์

ส่วนที่ 1 การวิเคราะห์ระบบงาน
1.1 ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับระบบ
1.2 กำหนดขอบเขตระบบ
1.3 ขั้นตอนการทำงานของระบบ
1.4 Business Rules
1.5 ตัวอย่างเอกสารในระบบ
1.6 รายงานความต้องการของระบบและผู้ใช้
ส่วนที่ 2 การออกแบบฐานข้อมูล
2.1 การออกแบบฐานข้อมูลเชิงแนวคิด ให้ใช้ ER Model
2.2 การออกแบบฐานข้อมูลเชิงตรรกะ
2.3 การทำ Normalization
2.4 การออกแบบฐานข้อมูลเชิงกายภาพ Data Dictionary
ส่วนที่ 3 การสร้างฐานข้อมูล ด้วย ORACLE 10g XE
3.1 สร้างตาราง
3.2 ป้อนข้อมูลลงแต่ละตาราง
3.3 คำสั่งสร้างรายงานตามความต้องการ
ส่วนที่ 4 การบริหารจัดการฐานข้อมูล
4.1 หน้าที่ของ DBA
4.2 การกำหนดความปลอดภัย
4.3 นโยบายการสำรองข้อมูล/รีสโตร์ข้อมูล
4.4 Transcription เพื่อการจัดการฐานข้อมูล
4.5 วิธีการดูแลรักษาระบบให้มีประสิทธิภาพ
บรรณานุกรม


อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ word ที่นี่
Read more ...

Central Processing Unit

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553


สถาปัตยกรรม Core i3, Core i5, Core i7
Intelได้ทำการเปิดตัวCPU Core i5 และCPU Core i7 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยCPUทั้งหมดนั้นถูกพัฒนาขึ้นมาจากสถาปัตยกรรมหลักของCPUที่ชื่อว่า Nehalem เป็นสถาปัตยกรรมโปรเซสเซอร์ระดับไมโครอาร์คิเทคเจอร์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยขยายขอบเขตการทำงานได้อย่างเต็มที่ ได้ถูกออกแบบมาให้สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระ เพื่อนำไปพัฒนาเป็น CPU ในลักษณะต่างๆ มีความได้เปรียบเสมือนกับมีบล็อกสำหรับทำหน้าที่ต่างๆ และถ้าต้องการใช้งานแบบไหนก็นำบล็อกที่ต้องการไปประกอบกัน โครงสร้างสามารถรองรับได้ตั้งแต่ 2 ถึง 8 คอร์ พร้อมด้วยคุณสมบัติ Simultaneous Multi-threading ที่ทำให้สามารถประมวลผลชิ้นงานตั้งแต่ 4 จนถึง 16 เธรดไปพร้อมๆ กันได้

รูปนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่าสถาปัตยกรรมของ Nehalem
สาเหตุที่ Intel ต้องออกแบบสถาปัตยกรรม Nehalem ให้มีความยืดหยุ่นมากเป็นพิเศษก็เพราะว่า ในช่วงของการพัฒนา Core 2 นั้น Intel พบว่าจำเป็นต้องพัฒนา CPU ที่ค่อนข้างจะหลากหลายอย่างมากเพื่อที่จะรองรับความต้องการของตลาดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตลาดเดสก์ท็อป (Conroe) ตลาดโน้ตบุ๊ก (Merom) ตลาดเซิร์ฟเวอร์ (Woodcrest) และตลาดเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้หลายโปรเซสเซอร์ก็ยังต้องมี CPU แยกออกมาอีก (Tigerton) ทั้งๆ ที่โดยพื้นฐานแล้วความแตกต่างของ CPU ในระดับเซิร์ฟเวอร์นั้นไม่ควรจะต่างกันมากนัก สิ่งที่ Intel ได้ออกแบบไว้กับ Nehalem



socket คือ ช่องที่ใช้สำหรับใส่ CPU เข้ากับ Mainboard โดยผู้ผลิต CPU จะกำหนดรูปแบบ socket เองโดยตรง และจะส่งต้นแบบไปยังผู้ผลิต Mainboard เพื่อนำไปผลิต Mainboard ของตนออกมาขาย โดย CPU แต่ละรุ่นจะต้องใช้กับ socket ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานด้วยกันเท่านั้นหรืออาจจะมีบางรุ่นที่ใช้แทนกันได้เช่น Socket 1156 รองรับ CPU i3 , i5 , i7-8xx Series , Socket 1366 รองรับ CPU i7-9xx Series จำนวนขาจะเท่ากับหมายเลขรุ่นซอกเก็ต
ข้อแตกต่าง Socket LGA 1366 กับ Socket LGA 1156 นอกจากจำนวนขาไม่เท่ากันแล้วยังมี
1. LGA 1156 กินไฟน้อยกว่า กินไฟระดับเต็มที่ อยู่ที่ 95 วัตต์ ส่วน LGA 1366 จะกินไฟในระดับ เต็มที่ 130 วัตต์
2. LGA 1156 แรม DDR3 แบบ Dual-Channel ส่วน LGA 1366 แรม DDR3 แบบ Triple-Channel เมนบอร์ด LGA 1366 เลยมีช่องใส่แรมเยอะกว่าโดยใส่ได้ 3 คู่ ( 6 แถว )
Shader Processor หรือ Stream Processor ซึ่ง Directx 10 นั้นก็ได้มาพร้อมกับแนวคิดที่เรียกว่า Unified Shader Architecture เป็นการนำหน่วยประมวลผล shader หลายๆตัวมารวมเป็นตัวหลักๆ เพียงตัวเดียว เพื่อเป็นการลดปัญหาคอขวด
GPU คือกราฟิกการ์ดที่นำมารวมอยู่ใน CPU จุดประสงค์ของการเอา GPU มารวมอยู่ใน CPU ก็เพื่อ ไว้ทำเป็นเครื่อง Milti Media คือเอาไว้ ดูหนัง เล่นเกมส์ ( เกมส์ Online หรือเกมส์ทั่วๆไปที่ไม่ต้องใช้ กราฟิกส์ สูงๆ ) โดยที่เราไม่ต้องซื้อการ์ดจอมาใช้เลย

หลักการทำงาน Intel Core i7
โปรเซสเซอร์แบบ Desktop
Core i7 ใช้ซอกเก็ต LGA1366 มีขาสำหรับจ่ายไฟ 250 ขา(โมเดลที่ขึ้นต้นด้วยเลข 9) จะรองรับแรม DDR3 แบบ Tripple Channel ที่ความเร็วสูงสุด 1066MHz ในขณะที่ตัวที่เป็น LGA1156 มีขาสำหรับจ่ายไฟ 175 ขา(โมเดลที่ขึ้นต้นด้วยเลข 8) จะรองรับแรม DDR3 แบบ Dual Channel ที่ความเร็วสูงสุด 1333MHz นอกจากนั้นยังมีตัวควบคุม PCI Express 2.0 รวมมาไว้ให้ภายในตัวCPU จึงส่งผลให้เมื่อทำการเชื่อมต่อกราฟฟิกการ์ด 1 ใบจะได้ความเร็ว x16 และ x8/x8 ที่กราฟฟิกการ์ด 2 ใบ สำหรับการติดต่อสื่อสารกับระบบในส่วนอื่นๆ นั้นCPUที่เป็นซอกเก็ต LGA1366 นั้นจะใช้บัส QPI ทำงานที่ความเร็ว 2.4 GHz (4.8 GB/s) และสำหรับตัวโมเดลที่ใช้ซอกเก็ต LGA1156 นั้นจะใช้บัส DMI (2GB/s)
โปรเซสเซอร์แบบ Notebook
Core i7 ที่ใช้บนโน้ตบุ๊กนั้นจะใช้บนซอกเก็ต PGA988 ซึ่งมีคุณสมบัติหลักๆ เหมือนกับ Core i7 ที่ใช้ซอกเก็ต LGA1156 (Core i7-8xx) แทบจะทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นการรองรับแรม DDR3 แบบ Dual Channel (สัญญาณนาฬิกาสูงสุดที่สามารถรองรับได้จะชึ้นอยู่กับตัวCPUเป็นสำคัญ ) แต่โดยหลักๆ แล้วCPUโมเดลใดๆ ที่รองรับแรม DDR3 ได้สูงสุด 1333 MHz นั้นจะรองรับแรมที่มี่ความเร็ว 1066MHz ด้วย แต่จะไม่รองรับแรมที่ความเร็ว 800MHz แต่ CPUโมเดลที่รองรับแรม DDR3 ได้สูงสุด 1066MHz นั้นจะรองรับแรมที่ความเร็ว 800MHz ด้วย) มีตัวควบคุม PCI Express 2.0 มาให้แล้วในตัวCPU และใช้บัส DMI โมเดลCPUที่ขึ้นต้นด้วยหมายเลข 6 นำหน้านั้นจะมีกราฟฟิกการ์ดที่รองรับ DirectX 10 มาให้ด้วยโดยจะมีความเร็วที่ 733MHz และมี Shader Processor มาให้ 12 ตัว
ประสิทธิภาพ Intel Core i7

Integrated graphics
32nm technology (เฉพาะรุ่น 980XE)
Intel smart cache
Intel Hyper-Threading
Intel Turbo boost Technology
greater cache
Higner clockspeed
Overclockkable (เฉพาะรุ่น Extreme Edition)

หลักการทำงาน Intel Core i5
โปรเซสเซอร์แบบ Desktop
Core i5 มีแกนCPUจริงเพียง 2 แกน แต่ระบบจะเห็นเป็น 4 เนื่องจากเทคโนโลยี Hyper Threading ส่วนตัวที่ขึ้นต้นด้วยเลข 7 นั้นจะมีแกนCPUจริง 4 แกน แต่ไม่มีเทคโนโลยี Hyper Threading มาให้ด้วย นอกจากนั้น Core i5-6xx ที่ลงท้ายด้วยเลข 1 นั้นจะมีกราฟิกชิพมาให้ด้วยซึ่งทำงานที่ความเร็ว 900MHz ในขณะที่ Core i5-6xx ที่ลงท้ายด้วยเลข 0 นั้นกราฟิกชิพจะทำงานที่ความเร็ว 733MHz
โปรเซสเซอร์แบบ Notebook
เช่นเดียวกับCPU Core i7 บนโน้ตบุ๊ก Core i5 บนโน้ตบุ๊กนั้นยังใช้บนซอกเก็ต PGA988 และมีส่วนควบคุมหน่วยความจำ DDR3 แบบ Dual Channel มาให้เหมือนเดิม โมเดลCPUที่ออกมาในขณะนี้นั้นยังสนับสนุน
ประสิทธิภาพ Intel Core i5
integrated graphics
32nm technology (เฉพาะรุ่น Core i5-6xx)
Intel smart cache
Intel Hyper-Threading
Intel Turbo boost Technology
หลักการทำงาน Intel Core i3
โปรเซสเซอร์แบบ Desktop
ตารางด้านล่างเป็นรายชื่อCPU Core i3 สำหรับเดสก์ท็อปเท่าที่ออกมาล่าสุด โดยส่วนควบคุมหน่วยความจำที่ได้รับการรวมเข้ามาไว้ในตัวCPUนั้นจะรองรับ ความเร็วสูงสุดที่ 1333MHz บนแรมแบบ DDR3 สำหรับส่วนควบคุม PCIe 2.0 นั้นจะรองรับการเชื่อมต่อกราฟฟิกการ์ดที่ความเร็ว 16x สำหรับการติดต่อสื่อสารกับชิพเซ็ตบนเมนบอร์ดนั้นจะผ่านทางบัส DMI ที่ความเร็ว 2GB/s และCPUทั้งหมดนั้นจะมีชิพกราฟฟิกซึ่งทำงานที่ความเร็ว 733MHz รวมมาให้ด้วย นอกจากนั้นก็ยังรองรับเทคโนโลยี Hyper Threading เช่นเคย จึงทำให้ระบบมองเห็นแกนCPUเป็นทั้งหมด 4 แกนจำลอง
โปรเซสเซอร์แบบ Notebook
Core i3 สำหรับโน้ตบุ๊กนั้นจะใช้ซอกเก็ต PGA988 สำหรับส่วนควบคุมหน่วยความจำนั้นจะรองรับแรม DDR3 ที่ความเร็ว 800 และ 1066MHz และก็เช่นเดียวกับโมเดลบนเดสก์ท็อปที่ส่วนควบคุม PCIe 2.0 นั้นจะรองรับการรับส่งข้อมูลที่ 16x และชิพกราฟฟิกที่รวมมาให้ด้วยนั้นจะทำงานที่ความเร็ว 500MHz ความเร็วของหน่วยความจำที่ 800 และ 1066MHz และก็มีส่วนควบคุม PCIe 2.0 ซึ่งรองรับอุปกรณ์ที่ความเร็วบัส 16x และมีกราฟฟิกการ์ดมาให้ซึ่งวิ่งที่ความเร็ว 500MHz
ประสิทธิภาพ Intel Core i3
integrated graphics
32nm technology
Intel smart cache
Intel Hyper-Threading

อธิบายศัพท์ Technology Core i3 i5 i7
integrated graphics คือเทคโนโลยีที่มาใหม่มันคือการ์ดจอออนบอร์ดแต่อยู่ในตัว cpu แล้วแน่นอนว่า คุณภาพนั้นสูงมาก จากที่ review viao z คะแนน 3Dmark06สูงถึง 1800 โดยทั้วไปแล้วแทบจะหาไม่มีการ์ดจอออนบอร์ดที่มี คะแนนเกิน 1000 แต่ก็แล้วแต่ผู้ผลิตและประกอบ notebook ว่าจะสนับสนุน ฟังชั่น นี้ไหม
32nm technology คือกระบวนการผลิต cpu ที่มีทรานซิสเตอร์ ขนาดเล็ก กว่ารุ่นก่อน (45nm) ซึ่งจะประหยัดไฟกว่าและเย็นกว่า และมีขนาด cpu ที่เล็ก ทำให้ผู้ผลิตnotebook สามารถผลิตnotebook ที่มีขนาดเล็ก บาง แต่มีคุณภาพสูงได้
intel smart cache คือ เป็นแคชภายใน cpu ช่วยเก็บชุดคำสั่งต่างๆได้มากขึ้น เข้าถึงชุดคำสั่งได้เร็วขึ่น โดยเป็นการใช้พื้นที่ร่วมกัน ในระบบ L3 cache ทำให้ไม่จำเป็นต้องส่งข้อมูลไปกลับระกว่า ramกับ core 1 core 2 แต่จะ ทำงานร่วมกัน ได้ส่งข้อมูลร่วมกันได้ ภายใน cpu เอง
intel Hyper-Threading เปรียบเสมือนคอร์จริง โดยจะเป็นการประมวลผลชุดคำสั่งแบบคู่ขนาน สำหรับโปรแกรมที่ต้องการ เธรดการทำงาน จำนวนมาก สามารถทำงานได้มากขึ้นในเวลาที่น้อยลง โดย 1 core จะทำงานได้ 2thr เฉพาะฉะนั้น 2 core ก็ 4thr เป็นเหมือน 4core จำลองดีดีนี้เอง
intel Turbo boost Technology เป็นการเพิ่มสัญาณนาฬิกา ของ cpu ให้สูงกว่าที่ กำหนดไว้ โดย จะพิจารณา จากโปรแกรมที่ใช้และคำจำเป็นในการบริโภคทรัพยากรของ cpu แล้วแต่โปรแกรมว่า สนับสนุนแบบไหนมากกว่ากันบางโปรแกรมทำงานได้ดีแบบ ซิงเกิลคอร์ บางโปรแกรมก็ทำงานได้ดีแบบ มัติคอร์ ก็ถ้าสนับสนุนแบบ ซิงเกิลคอร์ ก็จะปิดอีกคอร์ เพื่อเพิ่มสัญญาณ นาฬิกา สูงสุดถึง 2.93 จาก 2.4 ในรุ่นของ 520M i5 แต่ถ้าโปรแกรม ที่ทำงานได้ดีในแบบ มัติคอร์ก็จะไม่ปิดคอร์อื่นๆ แต่ก็สามารถเพิ่มสัญาณ นาฬิกาได้แต่ไม่สูงถึง 2.93 น่าจะประมาณ 2.5-2.6 ถ้าทำงานแบบมัติคอร์แต่ต้องการพลังในการประมวลผล มากๆ แน่นอนว่า โหมดนี้ สงผลต่อ อุณภูมิ อย่างมาก จะเห็นว่า ขนาด ผลิตด้วยกระบวนการ 32nm ยังสูง ถึง80"c แบบ Full load สรุปว่าสามารถเปิด turbo boot ได้ ทั้งแบบ ซิงเกิล (สูงถึง2.93ในรุ่น 520M) และแบบ มัลติ (ประมาณ 2.5-2.6)

รูปครับ ทางด้าน ซ้าย เป็นการเปิด turbo แบบ มัลติคอร์ ทางขวา เป็นการเปิด turbo แบบซิงเกิล
greater cache คือการจดจำโปรแกรมที่เราใช้งานบ่อยๆเป็นประจำ โดยระบบนี้จะทำให้โปรแกรมนั้นมาสามารถเข้าถึงได้เร็วขึ้น ทำงานได้ดีขึ้น
Higner clockspeed เป็นการบูธสัญญาณนาฬิกาให้สูงมากๆ จากที่กำหนด โดยจะต้องพึ่ง turbo boost
Overclockkable เป็นฟังชันที่สามารถ ปรับแต่สัญาณ นาฬกาได้ด้วยตนเองโดยอยู่ในอานัตของ intel โดยจะมีโปรแกรมของ intel เองเลย ตัวนี้จะมีเฉพาะ intel i7 Extreme เท่านั้น

หลักการทำงาน Intel Atom

โปรเซสเซอร์ Intel Atom ใช้สถาปัตยกรรม microarchitecture สามารถใช้งานกับฟอร์มแฟคเตอร์ต่างๆ ของอุปกรณ์ได้หลายรูปแบบ ได้แก่ สมาร์ทโฟน มือถือ แท็บเล็ต เน็ตบุ๊ค เดสก์ท็อปพีซีระดับเริ่มต้น และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เป็นอุปกรณ์เสริมที่สมบูรณ์แบบสำหรับพีซี ช่วยให้เข้าถึงอีเมล ข้อความโต้ตอบแบบทันที (IM) และอินเทอร์เน็ต โปรเซสเซอร์ Intel Atom ยังมอบอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น จึงสามารถทำการเชื่อมต่อในขณะเดินทางได้นานยิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้ โปรเซสเซอร์ยังออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานด้วยการใช้ Intel Core microarchitecture Hi-k 45nm ที่เป็นเทคโนโลยีสำหรับอนาคต นอกจากนั้น โปรเซสเซอร์ Intel Atom ยังรวมการทำงานกราฟิก, วิดีโอ และชุดควบคุมหน่วยความจำไว้บนไดย์
Intel Atom ทั้งหมดมีคุณลักษณะ
1. แพกเกจซีพียู Form Factor ขนาดเล็ก ปราศจากการใช้ ตะกั่ว ปราศจากฮาโลเจน ในรูปแบบ Micro-Flip Chip ในเน็ตบุ๊ค (22x22 มม.) มีขนาดเล็กกว่าซีพียูโน้ตบุ๊ค (35x35 มม.) ถึง 60% ประหยัดพื้นที่ใช้งานบอร์ดระบบในดีไซน์ที่เล็กกว่าและบางกว่า ทำให้ได้ form factor เน็ตบุ๊คที่มีขนาดเล็ก
2. Intel Enhanced Deeper Sleep (C4/C4E) ประหยัด พลังงานโดยการฟลัชข้อมูลใน Cache ไปยังหน่วยความจำระบบหากไม่มีการทำงานใดๆ เพื่อลดพลังงานโดยรวมลงและให้การทำงานของแบตเตอรี่ได้ยาวนานขึ้น
3. Enhanced Intel SpeedStep Technology ระบบ Multiple voltage และ frequency operating points มอบประสิทธิภาพสูงสุดโดยใช้พลังงานน้อยที่สุด ช่วยให้สามารถปรับประสิทธิภาพการทำงานได้ตรงกับความต้องการของแอพพลิเคชั่น
4. TDP ต่ำ Thermal Design Power ที่ต่ำทำให้ได้อุปกรณ์เน็ตบุ๊คแบบพกพาที่เบาและบางขึ้น เนื่องจากลดความจำเป็นในการระบายความร้อนลง
5. front side bus ที่ได้รับการปรับปรุงสำหรับการใช้พลังงาน ลดพลังงานที่ ต้องใช้ในการส่งข้อมูลไปยังโปรเซสเซอร์ ซึ่งช่วยในการประหยัดพลังงานและให้การทำงานของแบตเตอรี่ได้ยาวนานขึ้นโดยไม่ ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพ
6. Enhanced data prefetcher และ enhanced register access manager แยกข้อมูลที่ โปรเซสเซอร์ต้องการใช้งานมาเก็บไว้ภายใน L2 Cache ก่อน ทำให้ได้ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากโปรเซสเซอร์ไม่ต้องใช้เวลาในการรอ ข้อมูล
7. Intel® Advanced Smart Cache Cache และบัสที่ออกแบบสำหรับการแบ่งปันข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ มอบประสิทธิภาพ, การตอบสนองและการประหยัดพลังงานที่เพิ่มขึ้น

ประสิทธิภาพ โปรเซสเซอร์ Intel Atom
Intel Atom Processor ได้รับการออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัดและราคาประหยัด กินกำลังไฟน้อย ทำให้อุปกรณ์เชื่อมอินเทอร์เน็ตที่ใช้ Intel Atom Processor สามารถรองรับการทำงานขณะเดินทางได้อย่างเต็มที่ Intel Atom Processor ถูกผลิตขึ้นมาโดยเน้นสมรรถนะเพื่อการท่องอินเทอร์เน็ต เล่นเว็บบล็อก ฟังเพลง ดูวีดีโอ หรือติดต่อกับผู้คนทั่วโลกขณะเดินทาง นอกจากนี้คุณสมบัติประหยัดพลังงานของ Intel Atom Processor ทำให้คุณสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขึ้น จึงสามารถออนไลน์ได้นานยิ่งกว่าเดิม
สถาปัตยกรรม Phenom II X2 ,X3,X4,X6
สถาปัตยกรรม Phenom II จะเป็นสถาปัตยกรรม K10 ได้มีการพัฒนาดังนี้
1. พัฒนา Prediction algorithm เพื่อข้อมูลประเภท Indirect โดยสร้างตารางขนาด 512 elements
2. เพิ่มขนาด Global history register ที่ใช้เก็บชุดคำสั่งก่อนหน้าจากเดิม 8 เพิ่มขึ้นเป็น 12
3. เพิ่มขนาดของ Return-Address Stack จากเดิม 12 เป็น 24 ตำแหน่ง
4. Branch Prediction คือ ความสามารถในการ คาดเดา ของโพรเซสเซอร์ที่จะทำนายล่วงหน้าว่า
การทำงานในคำสั่งถัดไปจะเป็นอย่างไร และ จะดึงข้อมูลหรือชุดคำสั่งถัดไปมาเตรียมไว้ล่วงหน้า
เพื่อป้องกันการเกิด Decoding Interruption ( เสียจังหวะการต่อเนื่องในการประมวลผล)
( ซึ่งใน K- 8 จะใช้ Two-Level adaptive algorithm ที่จะทำนายข้อมูล โดยการย้อนกลับไปพิจารณาจากชุดคำสั่ง 8 ชุดก่อนหน้า และใช้การคำนวณ เพื่อหาผลลัพธ์ถัดไป )
5. Integer Execution Unit
คือ IEU ของ K-8 และ K-10 นั้นประกอบไปด้วยท่อในการประมวลผลเลขจำนวนเต็ม 3 ท่อด้วยกัน ซึ่งแต่ละท่อก็จะมี Scheduler ที่ไว้จัดสรรลำดับข้อมูลแยกออกจากกัน ในส่วนของ K-10 นั้นได้แก้ไขปัญหาการเกิด out-of-order reads ซึ่งคือ การประมวลผลชุดคำสั่งที่ไม่เป็นลำดับ อย่างเช่นการประมวลผลให้เขียนชุดคำสั่ง ก่อนที่จะอ่านชุดคำสั่ง ก็จะไม่เกิดปัญหา Conflict กับ Memory Address แต่อย่างใด
6. Floating Point Unit
ใน K10 นั้น ความกว้างของขนาด FPU ได้เพิ่มขึ้นเป็น 128 บิต ทำให้ K-10 สามารถประมวลผล Vector 128-bit ได้ใน สัญญาณนาฬิกาเดียว ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นสองเท่าในทางทฤษฏี เมื่อทำงานเกี่ยวกับ Vector SSE-instructions ( ถ้าเทียบกับ K-8 )
7. Memory Controller
ใน K-10 ได้เพิ่มช่องสัญญาณของ Data Cache จากเดิม 64-bit ต่อสัญญาณนาฬิกา ( ใน K-8 เป็น 128-bit ต่อสัญญาณนาฬิกา ) และ เพิ่มช่องสัญญาณของ Memory Controller เป็น 128-bit ในส่วนของ Cache ใน K-10 ก็มีเพิ่ม Cache ระดับ 3 (L3 Cache) ขึ้นมา เพื่อเป็นจุดเชื่อมต่อของแต่ละคอร์ เพื่อจะสามารถ ส่ง-แลกเปลี่ยน ข้อมูลกันได้
8. Virtualization
มีการพัฒนาชุดคำสั่งที่ AMD-V ที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานหลาย OS บนเครื่องเดียวกัน โดย K-10 นั้น จะอนุญาตให้แต่ละ OS บน Virtualization สามารถมี Memory Management เป็นของตัวเองได้ ซึ่ง AMD เรียกว่า Nested Paging ซึ่งเทคโนโลยีนี้ ช่วยลดระยะเวลาที่ VM จะใช้ในการจัดการพวก Shadow Page และทาง AMD ได้อ้างว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 79%

9. New Instructions (SSE4a)
เพิ่มชุดคำสั่งจากเดิมใน K8 เข้าไป ทำให้ช่วยประมวลผลชุดคำสั่งเฉพาะทางได้รวดเร็วขึ้น อย่าง LZCNT ที่นับจำนวนเลข 0 ในชุดคำสั่ง และ POPCNT ที่นับจำนวนเลข 1 ในชุดคำสั่ง ซึ่งชุดคำสั่งพวกนี้ จะใช้งานกับโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ จะสามารถทำงานได้เร็วกว่าปกติ เปรียบเสมือนการลดจำนวนสัญญาณนาฬิกาที่จะต้องทำงานในแต่ละชุดคำสั่งนั้นๆ เช่น จากปกติต้องทำงาน 8 ถึง 32 สัญญาณนาฬิกาเพื่อนับจำนวนบิต แต่พอใช้คำสั่งพิเศษนี้ ก็เหลือเพียงสัญญาณนาฬิกาเดียว เป็นต้น
10. Power Management
ใน K-10 ก็ได้มีการพัฒนาส่วนของการประหยัดพลังงาน ที่แต่ละคอร์ จะมีการทำงานอิสระจากกันซึ่ง สัญญาณนาฬิกาของแต่ละคอร์ จะมีความเร็วที่แตกต่างขึ้น ขึ้นอยู่กับ Work Load ที่เข้ามาในโพรเซสเซอร์ โดยเทคโนโลยีนี้มีชื่อว่า AMD CoolCore รวมทั้งเทคโนโลยีที่อาจจะเคยผ่านตากันแล้วอย่าง Split Power Planes ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการพลังงาน ทาง AMD ก็นำมาจับเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น AMD Dual Dynamic Power Management ซึ่งเทคโนโลยีนี้จำเป็นที่จะต้องใช้ร่วมกันเมนบอร์ด Socket 1207+ ที่เป็นบอร์ดรุ่นใหม่ ซึ่งจะมาพร้อมเทคโนโลยีตัวนี้โดยเมนบอร์ด Socket 1207 ธรรมดาที่ออกมาก่อนหน้านี้ จะไม่รองรับ

Socket ของ AMD
ความแตกต่างของซีพียู และซ็อกเก็ต AM2/AM2+ นั้น จะมี 940 รู ส่วนซ็อกเก็ต AM3 มี 941 รู แต่ cpu AM3 จะมีเพียง 938 ขา นั่นคือเราสามารถนำเอา cpu phenom II x6 ไปใส่ใน ซ็อกเก็ต AM2+ ได้

ชื่อเรียกของ CPU AMD Phenom II
Phenom II x6 คือ ดาวทูบาน ( Thuban ) ในกลุ่มดาวมังกร (Draco) >>ทูบัน
Phenom II x4 ดาวหางหงส์ ( Deneb ) อยู่ในกลุ่มดาวหงส์ >>เดนีบ
Phenom II x4 ดาว ( Zosma )คือ ดาวในนักษัตรฤกษ์ที่ 11 ที่มีชื่อว่า ปุรพผลคุนี >>ซอสม่า
Phenom II X3 ( Heka ) แปลว่า การปลดปล่อยพลังชีวิต >>เฮก้า
Phenom II x2 ( callisto ) ดวงจันทร์ Callisto ของดาวพฤหัส >>คัลลิสโต
AMD Phenom II X6







CPU Phenom II X6 ที่เรียกว่า Thuban เป็นการใช้โครงสร้างของ K10 AMD ก็ได้มีการปรับปรุงคุณสมบัติในการทำงานของ K10 สำหรับ K10 Micro-Architecture นั้น ได้มีการพัฒนาให้สามารถดึง (Fetch) ชุดคำสั่งจาก L1I Cache ได้มากกว่าเดิมเท่าตัว จาก 16-byte blocks ใน K8 เป็น 32-byte blocks ใน K10 เนื่องจากขนาดชุดคำสั่งในทุกวันนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ทำให้การขยายขนาดการดึงชุดคำสั่งช่วยลดปัญหาคอขวดได้ ให้ความก้าวหน้าตามลำดับ โดยCPU Phenom II X6 ได้ยืดถือในเรื่องของประสิทธิภาพต่อการใช้พลังงานเป็นหลัก แต่ยังคงสร้างด้วยกระบวนการผลิตแบบ 45 นาโนเมตรเช่นเดิม ยังไม่ได้ใช้แบบ 32 นาโนเมตร เมื่อPhenom II X6 CPUแบบ 6 Coreลงสู่ตลาด โดยCPUรุ่นนี้จะทำงานร่วมกับชิปเซตในตระกูล 890 Series
จุดเด่นของ Phenom II X6 ทางAMD ยังคงเน้นไปในเรื่องของประสิทธิภาพต่อการใช้พลังงาน และจุดเด่นอีกประการก็คือ Phenom II X6 นั้นยังคงความเข้ากันได้กับเมนบอร์ดที่ใช้ซอกเก็ต AM3 และ ซอกเก็ต AM2+ อีกด้วย นั่นหมายความว่าผู้ใช้งานเมนบอร์ดรุ่นเดิมอยู่สามารถเพิ่มเติมประสิทธิภาพ ให้กับพีซีของตนด้วยการอัปเกรดCPUเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ต้องซื้อเมนบอร์ดใหม่ แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่ผู้ใช้จะทำการอัปเกรดก็ควรจะทำการตรวจสอบกับผู้ผลิตเมนบอร์ดอีกครั้งว่าเมนบอร์ดรุ่นที่ท่านใช้งานอยู่นั้นสามารถรองรับCPU Phemom II X6 ได้หรือไม่
ส่วนการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพนั้น ก็แนะนำว่าให้ใช้งานควบคู่กับเมนบอร์ดที่ใช้ชิปเซต 890 Series ซอกเก็ตแบบ AM3 โดยเมนบอร์ดรุ่นใหม่นี้จะรองรับการทำงานของ USB 3.0 อีกด้วย
คุณสมบัติทั่วไป ของ Phenom II X6 นี้ก็จะประกอบไปด้วยหน่วยความจำ L3 ที่มีขนาดตั้งแต่ 4MB – 8MB แล้วแต่รุ่น ซึ่งจะเป็นหน่วยความจำที่ใช้สำหรับการแชร์ข้อมูลระหว่างCoreแต่ละตัว ส่วน L2 ที่เป็นCACHEของแต่ละCoreนั้นจะมีขนาดอยู่ที่ 512KB นอกจากนี้ในส่วนของ FPU นั้นAMD ได้ปรับปรุงให้มีการทำงานแบบ 128 บิต เพื่อเพิ่มความเร็วในการประมวลผลคำสั่งทางด้านมัลติมีเดียให้ดียิ่งขึ้น การรองรับหน่วยความจำนั้นใช้งานได้ทั้ง DDR2 และ DDR3
สำหรับCPUชุดแรกที่จะนำเทคโนโลยี AMD Turbo CORE มาใช้งานนั้นจะเป็นCPUที่ใช้สถาปัตยกรรมที่ชื่อว่า Thuban ซึ่งเป็นCPUแบบ 6 Core มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่น และมีCPUแบบ 4 Coreอีกหนึ่งรุ่นคือ Phenom II X4 ซึ่งจะใช้สถาปัตยกรรม Thuban เช่นกัน
AMD Phenom II X4

AMD Phenom II X4 หรือที่เรียกกันจนติดปากในเวลานี้ว่า Deneb สำหรับคำว่า Deneb ที่เราเรียกๆอยู่ตรงนี้แท้จริงแล้วนั้นมันจะเป็นชื่อ Code Name หรือรหัสการผลิตนั่นหละครับ ส่วนชื่อเรียกอย่างเป็นทางการจริงๆของมันก็คือ AMD Phenom II X4
สำหรับ AMD Phenom II X4 นั้นหากดูจากชื่อเรียกแล้วมันก็ยังคงไม่แตกต่างไปจากเดิมมากนักเพียงแค่มี II หรือเจเนเรชั่นที่สองเท่านั้น สำหรับ Phenom II นั้นภาพรวมของตัว CPU แล้วนั้นถ้าหากมองกันถึงโครงสร้างภายในแล้วหละก็ หลายๆอย่างก็ยังคงใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับ Phenom X4 แต่จุดที่มีความแตกต่างอย่างโดดเด่นที่สุดแล้วนั้นจะประกอบด้วย 3 จุดใหญ่ๆ
1. ขนาดกระบวนการผลิตซึ่งทาง AMD ได้มีการเปลี่ยนแปลงขนาดกระบวนการผลิตให้มีขนาดเล็กลงจากเดิมที่จะใช้ขนาด 65nm บน Phenom X4 เดิมแต่สำหรับ Phenom II จะใช้ขนาดกระบวนการผลิตที่ 45nm
2. Memory Controller รองรับการทำงานร่วมกับ DDR3 แต่จะมีหมายเหตุระบุไว้เล็กน้อยว่า " ต้องการแพลทฟอร์มที่รองรับ " ในที่นี้ก็คงหมายถึงจะต้องมีเมนบอร์ดที่มีการออกแบบมาใหม่ที่พร้อมรองรับเมโมรีในแบบ DDR3 ด้วยนั่นเอง
3. ขนาดของ L3 Cache ที่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นจากเดิมถึง 3 เท่าด้วยกันคือมีขนาดเท่ากับ 6MB เนื่องจากการที่ทาง AMD ได้มีการลดขนาดกระบวนการผลิตที่เล็กลงเป็น 45nm เพราะเท่ากับว่าขนาดของ Die CPU ก็จะมีขนาดที่เล็กลงก็เลยทำให้สามารถเพิ่มจำนวนของ L3-Cache ให้เพิ่มมากขึ้นได้
AMD Phenom II X3

จากภาพโครงสร้างภายในของ CPU triple-core จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นการเพิ่มจำนวนของแกนประมวลผลขึ้นมาอีกหนึ่งแกน และมีการเพิ่มหน่วยความจำCACHE L 3 ขึ้นมาอีก ซึ่งมีขนาดใหญ่ถึง 2MB โดยหน่วยความจำCACHE L 3 นี้ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของCPUได้อีกระดับ โดยเฉพาะเมื่อแกนประมวลผล แต่ละแกนต้องการแชร์ข้อมูลร่วมกันก็จะกระทำกันบนหน่วยความจำCACHEระดับ 3 ซึ่งไม่จำเป็นต้องไปแลกเปลี่ยนข้อมูลกันบนหน่วยความจำหลักของเครื่อง ทำให้ลดระยะเวลาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลได้มาก เพราะตามปกติแล้วหน่วยความจำCACHEจะมีความเร็วในการทำงานที่สูงกว่าหน่วยความจำหลักที่อยู่บนเมนบอร์ด

สำหรับในเรื่องการใช้งานหน่วยความจำ นั้นCPU Triple-Core ก็ยังคงรองรับหน่วยความจำแบบ DDR3 รูปแบบของซอกเก็ต AM2 หรือ AM2+ เพราะในทางเทคนิคแล้วไม่มีอะไรใหม่เลยที่จะต้องปรับเปลี่ยนซอกเก็ตCPU เพราะในทางเทคนิค แล้วถึงแม้ว่าCPUจะมีจำนวนของแกนประมวลผลเพิ่มขึ้น มีหน่วยความจำCACHE L 3เพิ่มขึ้น แต่ส่วนที่ต้องเชื่อมต่อกับส่วนอื่นๆ บนเมนบอร์ดนั้นแทบจะไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ส่วนที่ควบคุมหน่วยความจำก็อยู่ในCPUอยู่แล้ว จะมีก็แค่บัสข้อมูลเท่านั้นที่เชื่อมต่อออกมา และที่สำคัญก็คือการเชื่อมต่อกับส่วนอื่นๆ ด้วยระบบ HyperTranspot นั้น มันก็ทำให้สามารถเข้ากับเมนบอร์ด AM2 และ AM2+ ได้โดยปรับปรุงแค่ไบออสเท่านั้น

AMD Phenom II X2



Phenom II X2 เป็นCPUในตระกูลใหม่ ยังเป็นมุขเก่าคือปิดแกนประมวลผลมา แล้วนำออกมาให้เป็น Phenom II X2 แต่ไม่เพียงในเรื่องของจำนวนแกนประมวลผลเท่านั้นที่สร้างความแตกต่างให้กับ Phenom II X4 และ Phenom II X3 และในอีกหนึ่งกรณีมันก็จะแตกต่างจากความเป็น X3 700Series กับ X4 900Series อีกเช่นกัน เพราะว่าเจ้า Phenom II X2 ที่เปิดตัวออกมานั้นจะมีขนาดของ L2-Cache ในขนาดเพียง 1MB (512KBx2) เท่านั้นเอง แต่สำหรับ X3 700Series กับ X4 800Series และ X4 900Series ต่างก็ยังคงจะมีขนาดของ L2-Cache ที่ขนาด 2MB ทั้งหมด และสำหรับ X2 500Series ตรงนี้กับขนาดของ L3-Cache จะยังมีขนาดเทียบเท่ากับรุ่นพี่ของมันอย่าง X3 700Series กับ X4 900Series คือ 6MB และจากทั้งหมดตรงนี้บทสรุปในแบบง่ายๆก็คงจะได้ว่า AMD Phenom II X2 500Series ในวันนี้มันก็คือ " Phenom II X4 900Series ที่ทำการปิดแกนประมวลผลและลดขนาดของ L2-Cache ลงแล้วก็นำมาใช้เป็น Phenom II X2 นั่นเอง " ส่วนทางด้านของโครงสร้าง ขนาดการผลิต และชุดคำสั่งต่างๆทั้งหมดก็คงเป็นเช่นเดียวกันทั้งหมดในความเป็น Phenom II
หลักการที่มาของ AMD Phenom II X2 555 Black Edition ยังเป็นการมาจาก Phenom II X4 Codename Deneb ที่ถูกปิดการทำงานของCoreที่มีความไม่สมบูรณ์ 100% จนทำให้เป็น Phenom II X2 Codename Callisto ข้อดีของ Phenom II X2 555 Black Edition ที่มันเป็น Rev.C3 ที่สามารถจัดการพลังงานรวมไปถึงความร้อนได้ดีกว่าตัว Rev.C2 ได้ดีขึ้น

CPU AMD Athlon Neo สำหรับ Ultrathin Notebooks

AMD Athlon Neo Processor เป็นCPUในตระกูล Athlon ที่ออกแบบสำหรับใช้กับ Ultrathin Notebooks โดยมีความเร็ว 1.6GHz มีCACHE L2 ขนาด 512 KB ผลิตโดยใช้เทคโนโลยี 65 nm และใช้พลังงานไฟฟ้าเพียง 15 W เท่านั้น โพรเซสเซอร์ Athlon Neo Single Core จะมาพร้อมกับCACHE L2 512MB กราฟิก Direct X9 และสนับสนุนหน่วยความจำ DDR2 667MHz
Atlon Neo ออกมาเพื่อชนกับ Atom โพรเซสเซอร์ของIntelโดยตรง ส่วนความแตกต่างที่เห็นก็คือ มันมีขนาดใหญ่กว่า และการบริหารจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพด้อยกว่า เปรียบเทียบขนาดของโพรเซสเซอร์ Neo จะอยู่ที่ 27 x 27 ม.ม. และมี thermal envelope อยู่ที่ 15 วัตต์ ในขณะที่ Atom ของIntelมีขนาดชิปอยู่ที่ 22 x 22 ม.ม. และมี thermal envelope แค่ 2.5 วัตต์เท่านั้น Athlon Neo โพรเซสเซอร์สำหรับโน้ตบุ๊กเจนเนอเรชั่น 2 ที่มีขนาดหน้าจอ 12-13 นิ้ว โดยทางบริษัทอ้างว่า มันเร็วกว่าโพรเซสเซอร์ Atom ของ Intel ถึง 2.5 เท่า
รายละเอียดทางเทคนิคของซีพียู AMD Athlon Neo
AMD Athlon Neo Processor เป็นซีพียูในตระกูล Athlon ที่ออกแบบสำหรับใช้กับ Ultrathin Notebooks โดยมีความเร็ว 1.6GHz มีแคช L2 ขนาด 512 KB ผลิตโดยใช้เทคโนโลยี 65 nm และใช้พลังงานไฟฟ้าเพียง 15 W เท่านั้น

Motherboard and Chipset:
สำหรับชิปเซ็ตที่รองรับ AMD Athlon™ Neo Processor นั้น จะมีอยู่ 3 รุ่นด้วยกันคือ AMD 770, AMD 690G และ AMD 690V โดยมีผู้ผลิตอย่าง MSI ที่วางจำหน่าย Motherboard สำหรับซีพียูรุ่นนี้แล้ว

คุณลักษณะของ Athlon Neo processor
1. แพคเกจวัด Processor 27 x 27 mm และโปรไฟล์ต่ำ 2.5 mm
2. AMD PowerNow! เทคโนโลยี -- แบบไดนามิกสวิทช์สภาวะประสิทธิภาพ (แรงดันไฟฟ้าและความถี่ core processor ปฏิบัติการ) ตามความต้องการประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์
3. AMD Digital Media Xpress ด้วยการสนับสนุน SSE, SSE2, SSE3 และ MMX คำแนะนำ MMX , SSE , SSE2 , SSE3 , x86-64 , 3DNow! MMX , SSE , SSE2 , SSE3 , x86 - 64 , 3DNow!
4. processor 64 bit
5. ใช้กับ Windows XP Professional x64 Edition, Windows XP Professional, Windows XP Home Edition, Windows 98, Windows ME, Windows NT, Windows 2000, Linux, และ Windows Vista


อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ Word ที่นี่(มีรูปบรรยาย)

Cpu_Intel_Core_i7_i3
อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่

Phenom_II
อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่
Read more ...

ภาษาซี (C Programming Language)

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553


ภาษา C

ภาษา C จัดเป็นภาษาระดับสูง เพราะตัวคำสั่งต่างๆส่วนใหญ่จะใกล้เคียงกับภาษามนุษย์ ภาษานี้มีลักษณะเด่นตรงที่เป็นภาษาขั้นสูงซึ่งเราสามารถเรียนรู้วิธีเขียนคำสั่งได้ง่าย แต่ก็มีจะมีบางคำสั่งที่มีลักษณะคล้ายกับสัญลักษณ์
หมายเหตุ ในตำราบางเล่มอาจจัดให้ภาษา C เป็นภาษาระดับกลาง (Medium Level Language หรือ High-Low Level Language)

TYPES OF PROGRAMMING LANGUAGES

ภาษาโปรแกรม (Programming Languages) คือ ภาษาที่เราเขียนเพื่อสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่เราต้องการ
ภาษาโปรแกรมมีหลายภาษา แต่ละภาษามีวัตถุประสงค์และมีจุดเด่นของภาษาที่ต่างกัน

ภาษาโปรแกรม มีหลายระดับ เช่น
ภาษาเครื่อง (Machine Language) เป็นภาษาระดับล่างสุดที่ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์โดยตรง แต่การเขียนภาษาเครื่องนั้นทำได้ยาก ตัวอย่างเช่นภาษา แอสแซมบลี
ภาษาระดับสูง (High-Level Language) เป็นภาษาที่ใกล้เคียงกับภาษามนุษย์ทำให้การเขียนโปรแกรมทำได้ง่ายขึ้น โดยเมื่อเขียนโปรแกรมเสร็จจะมีการแปลงภาษาระดับสูงให้เป็นภาษาเครื่องอีกครั้งหนึ่ง เช่น ภาษาซี จาวา วิชวลเบสิค เป็นต้น


หัวข้อถัดไป

การออกแบบขั้นตอนวิธีสำหรับการเขียนโปรแกรม (Algorithms)
อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่

แนะนำภาษาซี
อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่

รับและแสดงผลข้อมูล
อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่

เครื่องหมายและการดำเนินการในภาษาซี
อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่

คำสั่งในการควบคุมโปรแกรม
อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่

การใช้งานตัวแปรแถวลำดับ (Arrays)
อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่

ฟังก์ชัน และการเขียนโปรแกรมแยกเป็นโมดูล (Functions & Modular Programming)
อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่

อัลกอริทึมแบบโมดูล(Modular Algorithm)
อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่
Read more ...

TESTING

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553


TESTING
LEARNIING OBJECTIIVES
1. Understand the difference between software verification and software validation.
2. Understand the principles of component testing and system testing.
3. Understand three basic strategies that can be used to generate system test cases.
4. Understand a strategy for performing different kinds of software testing.

TESTING OUTLINE
The Unified Process and Testing — Overview
Testing — Life Cycle Role
Testing Overview
Testing — Verification & Validation
Testing Truths
The Unified Development Process — Testing Activities
Plan Tests
Design Tests: White Box; Black Box; Regression
Implement Tests
Perform Tests: Unit; Integration; System; Acceptance
Evaluate Tests

TESTING WORKERS
test engineer – responsible for the integrity of the test model; plans tests; selects and describes the test cases and test procedures; evaluates the results of integration and system tests
component engineer – responsible for test components that automate some of the test procedures
integration tester – performs integration tests for each build and reports defects
system tester – performs the system tests for a build


อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่
Read more ...

IMPLEMENTATION

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553


SOFTWARE ENGINEERING

IMPLEMENTATION — WORKERS
architect – responsible for
the integrity of the implementation model (correct, consistent, readable)
mapping of executable components onto nodes in the deployment model
architecture of the implementation model
system integrator – plans the sequence of builds required in each iteration and integrates each build when its parts have been implemented
component engineer – defines and maintains the source code of one or several file components and also often the integrity of one or several implementation subsystems

LEARNING OBJECTIVES
1. Understand that implementation is the realization of the system design model.
2. Know the major activities that take place during implementation.

อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่
Read more ...

การออกแบบระบบ (Systems Design)

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553


การออกแบบระบบ (Systems Design)
เป็นการสร้างแบบพิมพ์เขียวของระบบใหม่ตามความต้องการในเอกสารความต้องการระบบ โดยจะต้องมีการกำหนดสิ่งที่จำเป็นต่างๆเช่น ส่วนเชื่อมประสานกับผู้ใช้ ,input, output, process เป็นต้น
- Week 7a Data Design
- Week 7b User Interface, Input, and Output Design
- Week 8 System Architecture
หัวข้อถัดไป
กล่าวถึงสถาปัตยกรรมของระบบสารสนเทศซึ่งประกอบด้วย
- ฮาร์ดแวร์
- ซอฟต์แวร์
- ระบบเครือข่าย
- กระบวนการในการประมวลผล

อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่
Read more ...

Phase การออกแบบระบบ (Systems Design)

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553



Phase การออกแบบระบบ (Systems Design)
เป็นการสร้างแบบพิมพ์เขียวของระบบใหม่ตามความต้องการในเอกสารความต้องการระบบ โดยจะต้องมีการกำหนดสิ่งที่จำเป็นต่างๆเช่น ส่วนเชื่อมประสานกับผู้ใช้ ,input, output, process เป็นต้น ประกอบด้วย
- การออกแบบข้อมูล (Data Design)
- การออกแบบส่วนเชื่อมประสานกับผู้ใช้ (User Interface, Input and Output Design)
- สถาปัตยกรรมของระบบ (System Architecture)

แนวความคิดในการออกแบบข้อมูล

โครงสร้างข้อมูล (Data Structure)
คือกลุ่มของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กันซึ่งประกอบด้วยแฟ้มข้อมูลหรือตารางที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับคน สถานที่ สิ่งของ หรือเหตุการณ์ โดยในระบบสารสนเทศสามารถออกแบบได้ทั้ง
- ระบบการประมวลผลแฟ้มข้อมูล
(File Processing System)
- ระบบฐานข้อมูล (Database System)

หัวข้อถัดไป
ระบบการประมวลผลแฟ้มข้อมูล
ระบบฐานข้อมูล (Database Systems)
องค์ประกอบของระบบการจัดการฐานข้อมูล
ศัพท์เฉพาะในการออกแบบข้อมูล
Normalization

อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่


การออกแบบส่วนที่ติดต่อกับผู้ใช้
แนวทางในการออกแบบส่วนที่ติดต่อกับผู้ใช้
การออกแบบส่วนนำข้อมูลออก(Output Design)
แนวความคิดในการออกแบบส่วนนำข้อมูลออก

อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่
Read more ...

Phase System Analysis & Design

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553


Phase System Analysis & Design
Phase การวิเคราะห์ระบบ
คือขั้นตอนในการทำความเข้าใจระบบใหม่ให้สนับสนุนความต้องการทางธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก ดังนี้
- แบบจำลองความต้องการ (requirement modeling)
เกี่ยวข้องกับกระบวนการค้นหาข้อเท็จจริงในการอธิบายถึงระบบงานปัจจุบันและกำหนดความต้องการสำหรับระบบงานใหม่
- enterprise modeling
ใช้รูปภาพแสดง entity ,data และกระบวนการของระบบ
- development strategies

หัวข้อถัดไป
- อธิบายถึงกระบวนการในการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ
- การทำงานร่วมกันเป็นทีม
- สร้างแบบจำลองที่จะนำมาใช้ในการออกแบบและพัฒนาระบบ

ทักษะในการวิเคราะห์ระบบ
Team-Oriented Methods and Techniques
Joint application development (JAD)
Rapid application development (RAD)
System Requirements Checklist
Fact-Finding

อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่

Entity-Relationship Diagrams:ERD
Data Flow Diagrams :DFD

อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่

Phase การวิเคราะห์ระบบ
Development Strategies Overview
กล่าวถึงการประเมินทางเลือกในการพัฒนาระบบ การเตรียมเอกสารความต้องการการใช้ระบบเพื่อนำเสนอต่อผู้บริหาร การเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการออกแบบระบบ การสร้างต้นแบบ แนวทางในการออกแบบ และการใช้รหัสในการนำเสนอหรือเก็บข้อมูล

แนวทางในการออกแบบระบบ
การสร้างต้นแบบ (Prototyping)
การออกแบบรหัส

อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่
Read more ...

ข้อกำหนดซอฟต์แวร์และกระบวนการวิศวกรรมความต้องการ

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553


Software Specification and Requirement Engineering Process


ข้อกำหนดซอฟต์แวร์
ในการสร้างบ้านที่จำเป็นจะต้องมีแบบแปลน หรือที่เรียกว่า พิมพ์เขียวของบ้าน
เพื่อที่จะให้ช่าง สร้างบ้านตามที่เจ้าของต้องการโดยพิมพ์เขียวต่างๆ จะได้รับการออกแบบจากทีมวิศวกรและสถาปนิก
ในส่วนของการสร้างซอฟต์แวร์
ก่อนที่ทีมโปรแกรมเมอร์จะลงมือพัฒนาระบบ จะต้องมีทีมผู้วิเคราะห์และออกแบบ สร้างเอกสารขึ้นมา เพื่อระบุความต้องการของผู้ใช้ลงไป คล้ายๆ กับเป็นพิมพ์เขียวของซอฟต์แวร์
ซึ่งเราเรียกว่า เอกสารข้อกำหนด (Specification Document)
เป็นสื่อกลางในการเชื่อมความเข้าใจของผู้พัฒนากับความต้องการของผู้ใช้
โดยเอกสารข้อกำหนดที่ว่านี้ จะต้องไปเกี่ยวข้องกับบุคคลหลายฝ่าย ดังนั้นจึงได้มีการกำหนดระดับของเอกสารไว้ ให้เหมาะกับบุคคลในแต่ละฝ่าย
ข้อกำหนดนิยามความต้องการของผู้ใช้ (Requirements Definition Specification)
ข้อกำหนดความต้องการ (Requirement Specification)
ข้อกำหนดซอฟต์แวร์ (Software Specification)

ข้อกำหนดนิยามความต้องการของผู้ใช้ (Requirements Definition Specification)
คือเอกสารที่ระบุความต้องการและเงื่อนไขต่างๆ ระหว่างผู้ใช้ หรือผู้ว่าจ้าง กับระดับผู้บริหารโครงการซอฟต์แวร์
โดยใช้ภาษาธรรมชาติหรือรูปภาพง่ายๆ ในการสื่อความหมาย

หัวข้อถัดไป
Feasibility study
Requirement Analysis
Requirement Definitions
Requirement Specification
Software Requirement Document
Requirement Validation

อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่
Read more ...

การบริหารโครงการผลิตซอฟต์แวร์ (Project Management)

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553


การบริหารโครงการผลิตซอฟต์แวร์ (Project Management)

Project หมายถึง การดำเนินกิจกรรมตามแผนงานที่ได้จัดทำขึ้น โดยแต่ละกิจกรรมจะมีวันเริ่มต้นและสิ้นสุด เพื่อบรรลุเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ภายใต้ระยะเวลา แหล่งทรัพยากร และงบประมาณที่กำหนดไว้

Project Management หมายถึง กระบวนการในการกำหนด วางแผน ชี้แนะ ติดตาม และควบคุมโครงการพัฒนาระบบให้สามารถดำเนินการได้ตามระยะเวลาและงบประมาณที่กำหนดไว้ได้


หัวข้อถัดไป
หน้าที่ของ Project Manager
ทักษะของ Project Manager
Project Management Process
Baseline Project Plan : BPP
PERT Chart : Project Evaluation and Review Technique Chart
CPM Chart : Critical Path Method

อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่
Read more ...

การพัฒนาระบบซอฟต์แวร์

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วงจรการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ (Software Development Life Cycle - SDLC)

แบ่งเป็น 5 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 การวางแผนโครงการ (Project Planning Phase)
ระยะที่ 2 การวิเคราะห์ (Analysis Phase)
ระยะที่ 3 การออกแบบ (Design Phase)
ระยะที่ 4 การนำไปใช้ (Implementation Phase)
ระยะที่ 5 การบำรุงรักษา (Maintenance Phase)


หัวข้อถัดไป
วงจรการพัฒนาระบบ
กรรมวิธีการพัฒนาระบบ
การพัฒนาระบบแบบดั้งเดิม
การพัฒนาระบบเชิงวัตถุ
วิศวกรรมซอฟต์แวร์
โมเดลการพัฒนาซอฟต์แวร์
เครื่องมือสนับสนุนการพัฒนาระบบ
แนวทางวิเคราะห์และออกแบบระบบ


อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่
Read more ...

วิศวกรรมซอฟต์แวร์เบื้องต้น

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ปัญหาการพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่ไม่มีกระบวนการพัฒนา

28% ของโครงการพัฒนาซอฟต์แวร์ยุติกลางคัน (ใช้เงินไป$75 พันล้านดอลล่าร์ก่อนยุติ)
46% ของโครงการใช้งบประมาณเกินที่คาดไว้ (ใช้งบเกิน $22 พันล้านดอลลาร์)
26% เท่านั้นที่เสร็จตามเวลาและภายในงบที่ตั้งไว้
โครงการพัฒนาซอฟต์แวร์ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่มีอัตราความสำเร็จน้อยกว่า 60 %
จากซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ทุกๆ 6 ระบบที่นำไปใช้ จะมี 2ระบบที่ถูกยกเลิกการใช้
ซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ 3 ใน 4 ทำงานผิดพลาด

หัวข้อถัดไป
เข้าใจปัญหาการพัฒนา Software ที่ไม่มีกระบวนการพัฒนา
รู้จักคุณสมบัติที่ Software ที่ดีควรมี
รู้จักกระบวนการพัฒนาที่ทำให้Software ที่พัฒนาได้มีคุณภาพ
แนะนำขั้นตอนแต่ละขั้นโดยรวมของกระบวนการพัฒนา
แนะนำบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการพัฒนา

อ่านต่อดาวโหลด ไฟล์ powerpoint ที่นี่
Read more ...

William Stallings Computer Organization and Architecture

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553
Architecture & Organization
คุณสมบัติต่างๆ ของระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้ใช้สามารถมองเห็นได้ ซึ่งจะมีผลกระทบโดยตรงต่อคอมพิวเตอร์
Instruction Set
จำนวนบิตข้อมูลที่ใช้ในระบบ
กลไกของระบบ I/O
เทคนิคในการเก็บข้อมูลในหน่วยความจำ
ส่วนประกอบแต่ละส่วนของเครื่องคอมพิวเตอร์ และการเชื่อมต่อเข้ากับส่วนประกอบส่วนอื่นๆ
Control signals(สัญญาณควบคุม)
interfaces (ส่วนเชื่อมต่อ)
memory technology.
โครงสร้างพื้นฐานของ Intel X86
โครงสร้างพื้นฐานของ IBM System/370
ผู้ใช้สามารถเพิ่มเติมอุปกรณ์ได้ในภายหลัง
ออร์แกไนซ์เซชั่นจะมีความแตกต่างกันระหว่างรุ่น


William Stallings Computer Organization and Architecture
1. Introduction
2. ComputerEvolutionandPerformance
3. SystemBuses
4. CacheMemory
5. InternalMemory
6. ExternalMemory
7. Input/Outpu
8. OperatingSystemSupport
9. ComputerArithmetic
Read more ...

คำสั่งภาษา SQL : สำหรับสร้างฐานข้อมูลและสร้างตาราง

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553
คำสั่งภาษา SQL : สำหรับสร้างฐานข้อมูลและสร้างตาราง




ตัวอย่างรูปแบบคำสั่งสร้างฐานข้อมูล ใน SQL Server
CREATE DATABASE database_name
[On [Primary]
[<filespec> [,..n] ]
[,<filegroup> [,..n] ] ]
[Log on { <filespec> [,…n] } ]






ตัวอย่างการสร้างฐานข้อมูล

CRATE DATABASE test
ON
(NAME=test,
FILENAME=‘C:\SQLDATA\test.mdf’,
SIZE=10, MAXSIZE=50, FILEGROWTH=5)
LOG ON
(NAME=test_log,
FILENAME=‘C:\SQLDATA\test.ldf’,
SIZE=10 MAXSIZE=50, FILEGROWTH=5)

คำสั่งสร้างตาราง
CREATE TABLE table_name
( attribute1 data type[(size)] [NOT NULL] ,
attribute2 data type[(size)] [NOT NULL] ,
…………...
CONSTRAINT PK_name
PRIMARY KEY (attribute primary key, ...)
CONSTRAINT FK_name
FOREIGN KEY (attribute ref1, ref2 , ..) REFERENCES
ParentTable (attibute primary key, ...));

หัวข้อต่อไป
เริ่มต้นสร้างฐานข้อมูล
คำสั่งสร้างฐานข้อมูล
คำสั่งฐานข้อมูลใน SQL Server(ต่อ)
คำสั่งลบฐานข้อมูล
ชนิดข้อมูล(Data Type)
ชนิดข้อมูล(Data Type)(ต่อ)
การกำหนด constraint
1. PRIMARY KEY
2. FOREIGN KEY
3. NOT NULL
4. CHECK
5. UNIQUE
6. DEFAULT
การสร้าง Primary Key
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตาราง
ตัวอย่างคำสั่งสร้างวิว
ตัวอย่างการสร้างอินเด็กซ์
อื่นๆ...

อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ PDF ที่นี่
อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ Powerpoint2007 ที่นี่






Read more ...

การเปิด/ปิดการใช้งานฐานข้อมูล

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553
การเปิด/ปิดการใช้งานฐานข้อมูลและการปรับระบบให้มีประสิทธิภาพ

หลังจากติดตั้งฐานข้อมูล oracle แล้ว เครื่องนั้นจะเปิดและปิดระบบฐานข้อมูลในลักษณะอัตโนมัติ คือ เมื่อเปิดเครื่องขึ้นมา ระบบฐานข้อมูลจะถูกเปิดขึ้นมาเอง และเมื่อปิดเครื่องระบบฐานข้อมูลก็ถูกปิดตามลงไปด้วย
การเปิดการใช้งานของระบบฐานข้อมูล oracle แบบอัตโนมัติ อาจจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกใช้หน่วยความจำไป
ดังนั้นในบางครั้ง เราอาจยังไม่ต้องการใช้งานระบบฐานข้อมูล oracle เราจึงต้องการเปิด-ปิดฐานข้อมูล oracle ด้วยตัวเอง

ปัจจัยที่ใช้พิจารณาในการปรับระบบ
ผู้บริหารฐานข้อมูลจำเป็นต้องวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานของระบบอย่างต่อเนื่อง โดยพิจารณาจากปัจจัย ดังนี้
1. เวลาที่ใช้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ (Response Time) เวลาที่เริ่มจากเวลาที่ผู้ใช้ส่งคำสั่ง จนกระทั่งได้รับผลของคำสั่งนั้น เช่น คำสั่งที่ส่งไปแล้วแสดงผล หรือเวลาที่ใช้ในการปรับปรุงข้อมูล เป็นต้น
2. ความมีอยู่ของฐานข้อมูล (Database Availability) เนื่องจากผลกระทบจากการที่ระบบมีกลไกการกู้หรือสำรองข้อมูล หรือเมื่อทำการปิดฐานข้อมูลและเริ่มต้นฐานข้อมูลใหม่
3. การใช้หน่วยความจำ (Memory Utilization) เป็นการพิจารณาว่ามีการใช้งานของหน่วยความจำว่ามีมากน้อยเพียงใด



หัวข้อต่อไป
การเปิด/ปิดการใช้งานฐานข้อมูล
ผ่าน Windows
ผ่าน Command Line
ผ่าน Graphical Desktop
บทนำการปรับระบบ
เป้าหมายของการปรับระบบ
แนวทางในการปรับระบบ
สรุป

อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ PDF ที่นี่
อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ Powerpoint2007 ที่นี่
Read more ...

การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลพร้อมกัน

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553
การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลพร้อมกัน

(Concurrency Control)
คุณสมบัติที่สำคัญอย่างหนึ่งของฐานข้อมูลก็คือ การที่ผู้ใช้จากส่วนต่างๆ สามารถจะเรียกใช้ข้อมูลในฐานข้อมูลได้พร้อมๆ กัน
สำหรับฐานข้อมูลที่ใช้งานในระดับองค์กรที่เป็นฐานข้อมูลในระบบที่ซับซ้อนมากขึ้นนั้น ระบบจัดการฐานข้อมูลจะต้องมีกลไกในการจัดการเพื่อให้ผู้ใช้จากหน่วยงานต่างๆ สามารถเรียกใช้ข้อมูลในฐานข้อมูลเพื่อทำงานได้พร้อมๆ กัน โดยที่ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำงานจะต้องถูกต้องเสมอ

CONCURRENCY CONTROL

Concurrency คือ การที่มีทรานแซกชันหลายๆ ทรานแซกชันต้องการเรียกใช้ข้อมูลเดียวกันในเวลาเดียวกันจากฐานข้อมูลเพื่อทำงานของแต่ละทรานแซกชัน
Concurrency Control คือ กระบวนการของการจัดการกับ operations ต่างๆที่ประมวลผลในเวลาเดียวกัน ดังนั้นความถูกต้องของข้อมูลต้องถูกรักษาไว้ และ operationsเหล่านั้น ต้องไม่ขัดขวางหรือขัดแย้งกันเอง ภายในระบบฐานข้อมูลแบบมีผู้ใช้หลายคน (Multiuser environment)



หัวข้อต่อไป
ความหมายของ Concurrency Control
ปัญหาที่เกิดจากการเข้าถึงข้อมูลพร้อมกัน
วิธีการจัดการกับทรานแซกชั่นที่ทำงานพร้อมกัน
Serializable
Lock
ประเภทของการล็อค
ล็อคค้าง
Two phase lock


อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ PDF ที่นี่
อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ Powerpoint2007 ที่นี่
Read more ...

วัตถุประสงค์ของการกู้และสำรองข้อมูล

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553
วัตถุประสงค์ของการกู้และสำรองข้อมูล



เพื่อกำหนดกลยุทธ์ในการกู้และสำรองข้อมูลของระบบ เพื่อป้องกันไม่ให้ฐานข้อมูลเสียหาย กล่าวคือ
ต้องมีการจัดการฐานข้อมูลเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้เกิดเหตุขัดข้องน้อยที่สุดหรือถ้าหากเกิดเหตุขัดข้องจะต้องทำให้ระยะเวลาที่ใช้ในการกู้ระบบใช้เวลาน้อยที่สุดและทำให้ข้อมูลเสียหายน้อยที่สุด
การสำรองข้อมูล จะช่วยสนับสนุนในการกู้ข้อมูลว่าจะกู้ข้อมูลได้เร็วและครบถ้วนหรือไม่
ก่อนที่จะกล่าวถึง การกู้ข้อมูล จะกล่าวถึง Transaction ซึ่งมีส่วนสัมพันธ์กับการกู้เพื่อรักษาสภาพของฐานข้อมูลไว้

หัวข้อต่อไป
บทนำ
วัตถุประสงค์ของการกู้และสำรองข้อมูล
ความหมายของ Transaction และคุณสมบัติ
ประเภทของเหตุขัดข้อง
กลไกการกู้โดยใช้ Log และ ประเภทของการกู้โดยใช้ Log
การใช้คําสั่ง SQLในการจัดการทรานแซกชั่น
การใช้คำสั่งเพื่อสํารองข้อมูล
การนำข้อมูลเข้า-ออกจากระบบ

อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ PDF ที่นี่
อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ Powerpoint2007 ที่นี่
Read more ...

ความปลอดภัยของฐานข้อมูล (DATABASE SECURITY)

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553


ความปลอดภัยของฐานข้อมูล(DATABASE SECURITY)
วิว (View) เป็นตารางที่ถูกสร้างขึ้นจากรีเลชั่นหรือวิวอื่นๆ
วิว ไม่มีข้อมูลของตนเอง แต่จะเสมือนหน้าต่างที่แสดงข้อมูลจากรีเลชั่น
การสร้างวิว มีวัตถุประสงค์เพื่อ
ให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ข้อมูลจากวิว แทนการเรียกจากรีเลชั่น เพื่อความปลอดภัยของฐานข้อมูล
ช่วยให้มีความเป็นอิสระของข้อมูล
ลดความซ้ำซ้อนของฐานข้อมูล
การสร้างวิว จะใช้คำสั่ง SQL

หัวข้อต่อไป
Introduction
คำสั่งสร้างวิว
การใช้คำสั่ง SQL ประเภท DCL
สิทธิ์ที่เกี่ยวกับระบบ (SYSTEM PRIVILEGES)

อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ PDF ที่นี่
อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ Powerpoint2007 ที่นี่
Read more ...

INDEX และคำสั่งสร้าง INDEX

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553



INDEX และคำสั่งสร้าง INDEX
ในการออกแบบฐานข้อมูลระดับกายภาพ (Physical Database Design) เป็นการออกแบบเพื่อให้ฐานข้อมูลถูกจัดเก็บและเรียกใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อินเด็กซ์เป็นวิธีการหนึ่งที่นำมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงข้อมูลซึ่งการอินเด็กซ์สามารถจัดการโดยระบบจัดการฐานข้อมูลเพียงการใช้คำสั่ง SQL ในการสร้างอินเด็กซ์ว่าจะอินเด็กซ์ในลักษณะใด
ดังนั้นในการออกแบบฐานข้อมูลระดับกายภาพของฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์จะไม่ยุ่งยากเท่ากับโมเดลอื่น เนื่องจาก DBMS มีความสามารถในการจัดการออกแบบในระดับกายภาพได้มาก
ผู้ออกแบบต้องตัดสินใจว่าข้อมูลที่ถูกออกแบบในระดับตรรกะ จะมีโครงสร้างการจัดเก็บอย่างไรในหน่วยความจำสำรอง เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ
การออกแบบฐานข้อมูลในระดับกายภาพ เป็นการพิจารณาถึงโครงสร้างการจัดเก็บข้อมูล (Storage) และวิธีการเข้าถึงข้อมูล (Access Method)


หัวข้อต่อไป

Introduction
การออกแบบฐานข้อมูลระดับกายภาพ
โครงสร้างการจัดเก็บข้อมูล (Storage)
วิธีการเข้าถึงข้อมูล (Access Method)
วัตถุประสงค์และแนวทางในการอินเด็กซ์
ประเภทของอินเด็กซ์
คำสั่ง SQL ในการสร้างอินเด็กซ์

อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ PDF ที่นี่
อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ Powerpoint2007 ที่นี่
Read more ...

คำสั่งในการจับคู่ข้อมูลระหว่างตาราง(JOIN)

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553



คำสั่งในการจับคู่ข้อมูลระหว่างตาราง(JOIN)

ในระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ จะมีการจัดเก็บข้อมูลแยกเป็นหลายๆ ตาราง การเลือกดูข้อมูลจาก 2 ตารางขึ้นไปพร้อมกัน สามารถทำได้โดยใช้เทคนิคการ join เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างตารางที่ต้องการ

หัวข้อต่อไป
Equi Join
Natural Join
Join Using
Join On (Inner Join)
Outer Join
Self Join

อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ PDF ที่นี่
อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ Powerpoint2007 ที่นี่
Read more ...

ภาษา SQL ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553



ภาษา SQL ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์

SQL- Structured Query Language เป็นภาษามาตรฐานสำหรับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการทำงานกับฐานข้อมูลแบบ Relational Database ไม่ว่าจะเป็นการเรียกดูข้อมูล การจัดการข้อมูล การสร้างผู้ใช้และโครงสร้างต่างๆ ในฐานข้อมูล
ภาษา SQL ที่ Oracle นำมาใช้นั้นได้พัฒนาให้ตรงกับมาตรฐานของ American National Standards Institute (ANSI) และ International Organization for Standardization (ISO) โดยมาตรฐานล่าสุดที่นำมาใช้อ้างอิงคือมาตรฐานในปี 2003 (Core SQL:2003)


ประเภทคำสั่ง SQL

แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่ม 1 Data Manipulation Language: DML ได้แก่ คำสั่ง
SELECT, INSERT, DELETE, UPDATE
กลุ่ม 2 Data Definition Language: DDL ได้แก่ คำสั่ง
CREATE, ALTER, DROP, TRUNCATE
กลุ่ม 3 Data Control Language: DCL ได้แก่ คำสั่ง
GRANT, REVOKE
กลุ่ม 4 Transaction Control ได้แก่ คำสั่ง
COMMIT, ROLLBACK, SAVEPOINT


หัวข้อต่อไป
ภาษา SQL ในฐานข้อมูล Oracle
ประเภทของคำสั่ง SQL
คำสั่ง Insert/ Update/ Delete
คำสั่ง Select
รูปแบบการเรียกข้อมูลคำสั่ง SELECT
การใช้งาน ORACLE SQL Functions
Single Row Functions
Group Functions
Sub Query –SELECT ซ้อน SELECT
Set Operator

อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ PDF ที่นี่
อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ Powerpoint2007 ที่นี่
Read more ...

Tablespace, Datafile, Table,Database, Constraints, Sequence

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553
การดูรายละเอียดของ Tablespace ด้วย Oracle Database Homepage




1.เข้าไปที่ Oracle Database Homepage


2.เชื่อมต่อด้วยผู้ใช้ SYSTEM ใส่รหัสตอนที่ลงโปรแกรม

3.คลิกไปที่ Administration> Storage > View Tablespace

4.แสดงรายละเอียดของ Tablespace




หัวข้อต่อไป
การดูรายละเอียดของ Tablespace
การสร้าง Tablespace
การกำหนด Datafiles
การสร้างฐานข้อมูล
การสร้างตาราง
การเพิ่ม/ลบ/เปลี่ยนคอลัมน์ในตาราง
การเพิ่ม/ลบ constraint ในตาราง

อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ PDF ที่นี่
อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ Powerpoint ที่นี่
Read more ...

Disk space Management

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553



การจัดการพื้นที่เก็บข้อมูลของฐานข้อมูล
Disk space Management

Estimate Disk Space
หน้าที่หลักของ DBA คือ การกำหนดเนื้อที่ในการจัดเก็บข้อมูล และ
Database Designer ควรที่จะเข้าใจถึงวิธีการคำนวณเนื้อที่ที่จะใช้ในการเก็บฐานข้อมูลลงในหน่วยความจำสำรอง
เพื่อประโยชน์ในการจัดสรรเนื้อที่ให้กับตารางต่างๆ ในฐานข้อมูลให้เหมาะสมและช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ






การประมาณเนื้อที่ในการจัดเก็บฐานข้อมูลขึ้นอยู่กับขนาดของฐานข้อมูลคำนวณเนื้อที่ขึ้นอยู่กับขนาดของแต่ละแถวและจำนวนแถวที่มีในตารางหนึ่ง ซึ่งจะประมาณการเนื้อที่ขนาดเริ่มแรกของตาราง ขนาดที่เพิ่มขึ้นและขนาดสูงสุดที่ควรจะเป็นของฐานข้อมูลที่คาดว่าจะรองรับข้อมูลที่เพิ่มขึ้นในอนาคตคำนวณเนื้อที่ขึ้นอยู่กับขนาดบล็อกของระบบปฎิบัติการที่ใช้งานอยู่ด้วยระบบการจัดการฐานข้อมูล และฮาร์ดแวร์ที่ระบบฐานข้อมูลใช้งานอยู่

สถาปัตยกรรมฐานข้อมูลของ Oracle

Oracle Instance
หน่วยความจำที่ใช้เก็บข้อมูลและควบคุมการทำงานของ Oracle Server เรียกว่า System Global Area (SGA) รวมกับ Oracle Process ที่ใช้ในการทำงานของ Oracle รวมเข้าด้วยกันเรียกว่า Oracle Instance
โดยทุกครั้งเมื่อมีการเริ่มต้นฐานข้อมูลขึ้นมา oracle จะจองพื้นที่หน่วยความจำ (SGA) และสร้าง Oracle Process ขึ้นมาทำงานทุกครั้งเพื่อให้ฐานข้อมูลสามารถทำงานได้


หัวข้อต้อไป
สถาปัตยกรรมฐานข้อมูลของ Oracle(con.)
Storage Structure
Physical storage structure
Logical storage structure
Data File & Tablespace & Database
ประเภทของ Tablespace
Index & Partition Index && View
Redo log files
หลักในการจัดการ Tablespace

อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ PDF ที่นี่
อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ Powerpoint ที่นี่
Read more ...

การเขียนภาษา Oracle PL/SQL 10g

วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553


การเขียนภาษา Oracle PL/SQL 10g

Oracle PL/SQL (Procedural Language/Structured Query Language) เป็นภาษาที่มีมาคู่กับ Oracle Database ที่เขียนในลักษณะเป็นขั้นเป็นตอน โดยใช้ภาษา SQL มาประกอบให้เป็นโปรแกรมย่อย (Procedure) เพื่อจัดการข้อมูลในฐานข้อมูล Oracle และเก็บเอาไว้ในระบบฐานข้อมูลหรือไม่เก็บไว้ในระบบฐานข้อมูลก็ได้

หัวข้อ
บทนำ
โครงสร้างพื้นฐานของ PL/SQL
การนำ PL/SQL ไปใช้
การกำหนดตัวแปรต่างๆ
โปรแกรม PL/SQL แบบซ้อนกัน
ขอบเขตการใช้งานตัวแปร
การใช้ SQL ในโปรแกรม PL/SQL


อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ PDF ที่นี่
อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ Powerpoint2007 ที่นี่
Read more ...

ORACLE 10g Express Edition

วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553


เริ่มต้นใช้งาน ORACLE 10g Express Edition

ประวัติบริษัท ORACLE
เดือน มิ.ย. 2513 Dr. E.F. Codd นักวิจัยของบริษัท IBM ได้เขียนบทความเผยแพร่เกี่ยวกับ “รูปแบบการเขียนโปรแกรมฐานข้อมูลแบบสัมพันธ์ (Relational Database)”
ในระยะแรกฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ของ E.F. Codd ไม่ได้รับความสนใจจาก IBM แต่ในภายหลัง IBM กลับเห็นคุณค่าของสิ่งดังกล่าวจึงพัฒนาภาษาเพื่อใช้กับฐานข้อมูลนี้ เรียกว่า “Structured English QUEry Language” หรือ “SEQUEL”
ปี 2520 มีการจัดตั้งบริษัท System Development Laboratories หรือ SDL เพื่อเข้าทำโครงการของ CIA (Central Intelligence Agency) ที่ชื่อว่า “ORACLE” แต่ต่อมาโครงการยุติลง

หัวข้อ
ประวัติบริษัท ORACLE

ORACLE 10g Express Edition (XE)
ขั้นตอนการกำหนดการเชื่อมต่อระบบ
การติดตั้ง ORACLE 10g XE บน MS Windows
การทดสอบการติดตั้ง
การใช้งาน Oracle Database Homepage
กลุ่ม User ใน Oracle Database 10g XE
ขั้นตอนการปลดล็อกuser HR
Oracle SQL Developer เครื่องมือบริหารจัดการระบบฐานข้อมูล
ขั้นตอนการติดตั้ง Oracle SQL Developer
ขั้นตอนการกำหนดการเชื่อมต่อระบบ



อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ PDF ที่นี่
อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ Powerpoint ที่นี่
Read more ...

Database Design and the Relational Model

วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553


Database Design and the Relational Model
Introduction
ในบทนี้ จะอธิบายการออกแบบฐานข้อมูลเชิงตรรกะ (Logical Database Design) ที่เรียกว่า ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database Model)
การออกแบบฐานข้อมูลเชิงตรรกะ
เป็นกระบวนการของการเปลี่ยนแบบจำลองเชิงแนวคิด (Conceptual Data Model) ให้เป็นแบบจำลองเชิงตรรกะ (Logical Data Model) ที่จะต้องสอดคล้องและเหมาะสมกับเทคโนโลยีฐานข้อมูลชนิดหนึ่ง
Conceptual Data Model –เป็นแบบจำลองข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเข้าใจความต้องการข้อมูล (Data Requirement) และ กฎทางธุรกิจ (Business Rules) เช่น ER-Data Model
Logical Data Model -เป็นแบบจำลองข้อมูลที่สร้างโครงสร้างของฐานข้อมูลที่เหมาะสมกับความต้องการต่างๆข ององค์กรนั้น เช่น Relational Data Model
ถึงแม้ว่า จะมี Logical Data models มากมาย แต่ว่าเราสนใจ Relational data model ด้วย เหตุผลว่า Relational data model ถูกนำมาใช้ในเป็นฐานข้อมูลของโปรแกรมประยุกต์ต่างๆมากมาย

หัวข้อต่อไป
Relational Database Model : Basic Definitions
Relational Data Structure: Relation
Relational Data Structure: Relational Keys
ตัวอย่าง Candidate Key
ตัวอย่าง Primary Key
Relational Data Structure: Foreign Key
ตัวอย่างตารางที่มี foreign key
ตัวอย่าง Relational Scheme
ตัวอย่างการฝ่าฝืน Entity Integrity Constraint
การแปลง ER Model เป็น Relational Model
การแปลง EER Model เป็น Relations
Normalization

อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ PDF ที่นี่
อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ Powerpoint ที่นี่
Read more ...

สภาพแวดล้อมของระบบฐานข้อมูล

วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Data and Information
ข้อมูล (Data) หมายถึง ข้อมูลที่เป็น ข้อความ(Text) รูปภาพ (Image หรือ Graphics) เสียง (Sound) หรือภาพถ่ายวิดีโอ(Video) ที่มีความหมายและสำคัญสำหรับองค์กร
สารสนเทศ(Information) คือ ข้อมูลเชิงสรุปที่ได้หลังจากกระบวนประมวลผล เช่น การคำนวณ การจัดกลุ่ม การเรียงลำดับ หรือสรุปผล เพื่อสร้างเป็นรายงานสรุป หรือจัดให้อยู่ในรูปแบบที่เหมาะสมต่อการนำเสนอสำหรับผู้บริหารขององค์กร


หัวข้อต่อไป
Introduction (con.)
Database
Data and Information
Database Management Systems: DBMS
Types of DBMSs
Example of ER-Data Model
Relational Data Model
ตัวอย่าง Relational Data Model
Traditional File Processing Systems
Disadvantages Traditional File Processing Systems
The Database Approach
Database Administrator : DBA
Costs and Risks of the Database Approach

อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ PDF ที่นี่
อ่านต่อดาวน์โหลด ไฟล์ Powerpoint ที่นี่
Read more ...